นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน
(Job Applicant Privacy Policy)
บริษัท เจ อาร์ เอ็ม เจริญมิตร กรุ๊ฟ จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัทฯ” หรือ “เรา”) ให้ความสำคัญ มุ่งมั่นในความคุ้มครอง และตระหนักถึงความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย ตลอดจนการดำเนินการอื่นใด กับ ข้อมูลของผู้สมัครงานที่ได้ให้ไว้แก่บริษัท (ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวด้วยเช่นกัน (Sensitive Personal Data) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562) โดยข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาในที่ปลอดภัยและเป็นความลับตามที่ได้กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (นโยบาย) บริษัทใคร่ขอความยินยอมจากผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเก็บ รวบรวมใช้ หรือเปิดเผย
-
หลักการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และดำเนินการด้วยวิธีอื่นใด เช่น การประมวลผล ต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้สมัครงานได้ให้ไว้สำหรับการสมัครงานนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากใบสมัครงาน หรือจากรูปแบบอื่นที่ผู้สมัครงานได้ให้ไว้ ในส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสมัครงาน เช่น ทางโทรศัพท์ หรือการสัมภาษณ์ เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัท ฯ อาจได้รับหรือได้มาซึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานจากบุคคลภายนอก เช่น ผู้สรรหาบุคลากร การอ้างอิงจากนายจ้างเดิมของผู้สมัคร หุ้นส่วนเดิมทางธุรกิจ ผู้รับจ้างงานช่วง ที่ให้บริการด้านสรรหาบุคลากร หรือ ความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้าน ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ให้บริการตรวจสอบประวัติความเป็นมา ผู้ให้บริการด้านการสืบค้นข้อมูล และผู้ให้บริการด้านต่าง ๆ (เช่น บริษัทที่ให้คะแนนความน่าเชื่อถือ) รวมถึงข้อมูลที่เปิดเผยจากแหล่งที่มาที่เป็นสาธารณะ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ (เช่น Facebook, Instagram) ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน เป็นต้น
2. วัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
(1) เพื่อใช้ในการดำเนินการตามกระบวนการสรรหาของบริษัท
(2) เพื่อการพิจารณาคุณสมบัติ และทักษะของท่าน ว่าเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นหรือไม่ ตรวจสอบประวัติก่อนการจ้างงาน โดยเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทําได้ ได้แก่ คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ข้อมูลเครดิตบูโร ประวัติอาชญากรรม และการตรวจเช็คจากบุคคลอ้างอิงที่ผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัท เป็นต้น
(3) เพื่อประโยชน์ในการติดต่อ สื่อสารเพื่อการนัดหมายสัมภาษณ์งาน การส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับ ตำแหน่งงาน
(4) เพื่อใช้ประกอบในการอ้างอิงการยืนยันตัวตนของผู้สมัครและความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ผู้สมัครงานได้ให้ไว้แก่บริษัท
(5) เพื่อการปฏิบัติตามพันธะสัญญาการจ้างงานของบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอก่อนที่จะเข้ามาเป็นพนักงานของบริษัทตามกระบวนการสมัครงาน
(6) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ เช่น กฎหมายแรงงาน กฎหมายภาษีอากร และ กฎหมายหรือกฎระเบียบใดๆ ที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท
(7) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
(8) เพื่อรวบรวมข้อมูลเป็นฐานข้อมูลของบริษัท หรือ ข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับ จํานวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์
ทั้งนี้หากภายหลังบริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวมใช้ และ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมก่อนการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐานด้วย
3. รูปแบบของข้อมูลส่วนบุคคล
รูปแบบของข้อมูลส่วนบุคคล และ ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมประกอบไปด้วย ดังนี้
-
ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ วัน เดือน ปีเกิด เลขที่หนังสือเดินทาง / เลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ เป็นต้น
-
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทำงานของท่าน เช่น ประกาศนียบัตรจากโรงเรียน / มหาวิทยาลัย ประวัติการเรียน การทดสอบทางวิชาการหรือภาษา หนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิง เป็นต้น
-
ข้อมูลเกี่ยวกับการการสมัครงานของท่าน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการเกณฑ์ทหาร ข้อมูล การสัมภาษณ์งาน และหลักฐานอ้างอิงต่าง ๆ เป็นต้น
-
ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการขัดกันของผลประโยชน์ เช่น ผลประโยชน์ในทางธุรกิจอื่นของท่านหรือ ของญาติ ซึ่งอาจขัดแย้งกับผลประโยชน์ของบริษัท หรือมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับกับคู่ค้าของบริษัทหรือไม่ เป็นต้น
-
ข้อมูลเกี่ยวกับคดีความ หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย และประวัติอาชญากรรม เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ การดำเนินคดีความทางแพ่ง ทางอาญา หรือ ข้อมูลเกี่ยวกับการล้มละลาย เป็นต้น
-
กรณีได้รับการเสนอตำแหน่งงาน – ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เช่น เพศ สัญชาติ สถานภาพการสมรส รายละเอียดของบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในการดูแลของท่าน ประวัติสุขภาพ และภาพถ่าย เป็นต้น
ข้อมูลที่บริษัทฯ ประมวลผลอาจรวมถึง “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” อันหมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราว ๆ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น เช่น ข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน
โดยในการรับสมัครพนักงาน และ ขั้นตอนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครพนักงาน บริษัท เจ อาร์ เอ็ม เจริญมิตร กรุ๊ฟ จำกัด จะประมวลผลและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน เช่น ประวัติสุขภาพ, ประวัติอาชญากรรม เป็นต้น
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ดังได้กล่าวไว้ข้างต้น จำเป็นต่อการพิจารณา เพื่อเลือกรับพนักงาน และดำเนินการอื่นใด ที่เกี่ยวข้องเพื่อสรรหาพนักงาน ว่าจ้างพนักงานทั้งสิ้น ซึ่งหากผู้สมัครงานไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อ การดำเนินการตามขั้นตอนการรับสมัครพนักงานตามที่ระบุข้างต้น บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการพิจารณา รับสมัครงาน และดำเนินการอื่นใดตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องได้
4. ความถูกต้องของข้อมูล
ผู้สมัครงานต้องรับรองว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้สมัครนั้นที่ได้ให้แก่บริษัทมีความ ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นข้อมูลล่าสุดตามที่บริษัทฯ ต้องการ
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน
บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจ้างงาน ดังต่อไปนี้
-
การดำเนินการและการจัดการกับใบสมัครงานของผู้สมัครงาน รวมถึงการจัดการด้านการสัมภาษณ์งานและทดสอบ การจัดการประเมิน การประเมินและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นใดที่จำเป็นสำหรับขั้นตอนการจ้างงาน
-
การประเมินความเหมาะสมของผู้สมัครงาน ต่อตำแหน่งหน้าที่ ตามที่บริษัท ฯ พิจารณาว่าเหมาะสม ตลอดจน การตรวจสอบการอ้างอิงของผู้สมัครงาน ประวัติการทำงาน หรือการตรวจสอบอย่างละเอียด
-
การกำหนดค่าจ้าง ค่าตอบแทน การจ่ายเงินโบนัส และผลประโยชน์อื่น ๆ
-
การติดต่อสื่อสารภายในบริษัทฯ
-
การปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ กฎเกณฑ์ นโยบาย วิธีปฏิบัติ รวมถึงข้อบังคับการทำงานของบริษัทฯ
-
กรณีได้รับการเสนอตำแหน่งงาน – ตรวจสอบประวัติก่อนการจ้างงาน และ ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับผู้สมัครงาน
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯอาจทำการเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานไปยังกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้ ผู้รับโอนข้อมูล ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะทำการนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของผู้สมัครงานเพื่อวัตถุประสงค์ ที่เกี่ยวข้องอย่างใดอย่างหนึ่งหรือมากกว่า
-
ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา ที่ปรึกษา คู่สัญญา ผู้รับจ้างงานช่วง และผู้ให้บริการซึ่งเป็นคู่สัญญาฝ่ายที่สาม รวมถึง เช่น ผู้สรรหาบุคลากร บริษัทที่เป็นเจ้าของ สนับสนุน หรือดูแลรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท หรือ โปรแกรมที่ช่วยในการสรรหาบุคลากร และระบบของ แผนกทรัพยากรบุคคลอื่น ๆ (รวมถึงการคำนวณระบบค่าตอบแทนและผลประโยชน์) และบริษัท ที่ตรวจสอบการอ้างอิงของผู้สมัครงาน รับรองการตรวจสอบประวัติ และดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด ในนามของบริษัท เป็นต้น
-
หน่วยงานราชการ หน่วยงานผู้มีอำนาจควบคุมกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย ศาล และเขตอำนาจศาล
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานจะถูกโอนไปยังที่อื่น ก็ต่อเมื่อบริษัทมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรักษาไว้ อย่างปลอดภัยตามระดับความคุ้มครองที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
6. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯจะทำการเก็บรักษาข้อมูลของผู้สมัครที่ไม่ได้รับคัดเลือก เพื่อวัตถุประสงค์ ในการ จ้างงานในอนาคต เป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่ไม่ได้รับคัดเลือก ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลของบริษัท หรือตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับได้กำหนดหรืออนุญาต บริษัทอาจเปิดเผยใบสมัครงานและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครต่อสำนักงานสาขา ของ บริษัทฯ เพื่อการพิจารณาหากมีตำแหน่งงานที่เหมาะสมเกิดขึ้น ในช่วงเวลานั้น
7. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัคร
ผู้สมัครงานมีสิทธิดังนี้
-
ผู้สมัครงานมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายทก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
-
ผู้สมัครงานมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการลบ หรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
-
ผู้สมัครงานมีสิทธิขอให้บริษัท โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือ ใช้งานได้ทั่วไป ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
-
ผู้สมัครงานมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ บริษัท จะดำเนินการตามคำขอตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
-
ผู้สมัครงานมีสิทธิขอเข้าถึง และ ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัท จะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
-
ผู้สมัครงานมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้องสมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
-
ผู้สมัครงานมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
8. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย
บริษัทฯ อาจทำการทบทวน และ ปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ได้เป็นครั้งคราวไป เช่น เพื่อให้มีความสอดคล้อง เมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัท เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ
9. ติดต่อบริษัท
กรณีมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
-
สถานที่ติดต่อ : บริษัท เจ อาร์ เอ็ม เจริญมิตร กรุ๊ฟ จำกัด ที่อยู่ 71/1 หมู่ 7 ถนน.ตลิ่งชั่น-สุพรรณบุรี ตำบล ละหาร อำเภอ บางบัวทอง จังหวัด นนทบุรี 11110 โทรศัพท์ 02-918-2645 (ติดต่อได้ในเวลาทำการจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่ 08:00น. – 17:00น.)
2. เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : อีเมล dpo-jrm@martonthailand.com
โทรศัพท์ 02-918-2645 (ติดต่อได้ในเวลาทำการจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่ 08:00น. – 17:00น.)